K a n d a

7/10/2552

Lets go!! huahin enjoy in extbition Paper War2

ไปทะเลอย่างทุลักทุเล แถมไม่ได้เห็นทะเลด้วย เยี่ยมไปเลยยยย..มั้ยล่ะ

ไอ้ที่ถ่อตะลอนๆเดินทางไปสามชีวิต ในนามกระแดะๆว่า สามเซเล็ป ก็เพราะ สิ่งสำคัญที่ต้องมา คืองานPaper War ที่เคลื่อนย้ายมาจัดกันที่ ชุบชีวา แกลลอรี่ หัวหิน อีกครั้งนี่น่ะแหละ ค่ะ งานนี้มากันเอาฮา กะเพื่อนๆที่นัดมาทะเลกันนานนม ไม่ต้องผัดกันอีกละทีนี้


เหนือสิ่งอื่นใดคือการได้มาให้กำลังใจพี่ๆหรือภาระรึป่าวนี่ไม่รู้ไม่ชี้นะ และยังเป็นหน้าม้ามาดูงานศิลปะด้วยนะจ๊ะ (ก็เห็นงานหมดเเล้วนี่ที่ ดีโอบี )



แกลลอรี่ที่หัวหิน ร้านชุบชีวา ของคุณชุบก็น่ารักเป็นบ้าเป็นหลังเลย สีสดถ่ายรูปสนุกมากๆ

tigerเบียร์ เป็นสปอนเซอร์ให้กินฟรีเอาแฮ๊งค์กันไปข้าง งานนี้ ดิฉันก็มึนแต่เนิ่นๆอีกตามเคยงานนี้ได้ ดนตรีสไตล์ noise ของคุณพี่แอ๊ะ สร้างสีสันในExtbition คราวนี้

และแล้ว พี่หมูก็เหนื่อยสุดอีกเช่นเคย(ฮ่า ฮ่า ไม่เคยรู้สึกผิดเลยชิมิ)


พี่แอ๊ะ พาไปเฮฮาปาจิงโกะต่อที่ร้านสุดฮิปของนักย่ำราตรี แห่งประจวบงานนี้ มึนหนักเป็น2เท่าเลยค่ะโดยไม่ต้องเพิ่มลิมิทแอลกอฮอล เมาผู้คน เมาแสงไฟ เมาจังหวะบีบหัวใจของดนตรี ที่ลงไม่ถูกว่าจะร่วมเอ็นจอยกับรอบข้างในท่าเต้นไหน พอดีถนัดร้านลาบอ่ะค่ะ. เป็นเซเล็ปร้านลาบ



หลังเริงร่า อ่อนเพลียและเมามาย ก็ได้หลับเป็นตาย หนอนเกือบรับประทานนะคะเนี่ย


วันรุ่งขึ้น เราก็ไปอึนๆกันที่บึงโมเน่ นั่นเป็นเพราะ บัวมันไม่บานให้เห็นบ้างเลย มีแต่ใบเขียวๆ กับน้ำหยดใสกลิ้งอยู่บนใบ แต่ฉากภูเขาที่นั่นก็ให้ความรู้สึกเย็นชื่น และสุขใจไปอีกแบบนึง

และแล้วก็เดินทางกลับ แวะซื้อของฝาก และเม้าส์กันยาวเหยียดไปตลอดทาง



ไม่เฉียดทะเลเลยค่ะ งานนี้..


ติดตามข่าวคราวของPaper War > http://tigerclubdesign.blogspot.com/

Paper War Opening At DOBhualumpong 26 june2009





งานเปิดตัว ของแมกกาซีน Paper War ณ วันที่ 26 มิ.ย.2009 ณ DOB หัวลำโพงแกลลอรี่

นอกจากissue sample ที่ได้รับเมื่อลงทะเบียน ในงานยังมีArt Exhbition เล็กๆ ที่ชักชวนคนกันเอง งัดแรงบันดาลใจมาโชว์ ภายใต้คอนเซ็ป The Bible Of Inspraion


บรรยากาศในงาน ก็คึกคักชื่นมื่น ยินเสียงดนตรี จากเบิร์ด มือกีต้าโลกส่วนตัวสูงแห่งวง Desktop Error หรือ เบิร์ด เพื่อนผู้ขี่ม้าขาวมาช่วยข้าพเจ้าได้ทันเวลา งานนี้ต้องขอบคุณเพื่อนฝูงที่ช่วยกันแบก แอมพ์ ไมค์ ลำโพง กีต้า ทั้งความช่วยเหลือต่างๆนาๆที่ทำให้ทุกอย่างราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง(ซาบซึ้งน้ำใจมากๆ)


พี่หมู Head ของงานนี้ หรือที่เเซวๆกันว่า บอกอ ก็ดูจะเหนื่อยและวุ่นวายไปตามเสต็ป ในขณะที่ข้าพเจ้ามึน แอลกอฮอล์ จากมินิเบียร์สิงค์ ตั้งแต่เริ่มงานแล้วล่ะจ๊ะ ฮ่า ฮ่า


เพื่อนฝูงแขกเหรื่อในงานทยอยกันเข้าบ้างออกบ้าง และเวลาก็ต้องผ่านไปทุกชั่วขณะ ก็ได้แต่ก็หวังว่าซักนิสส ก็ยังดี งานนี้จะทำให้ใครได้ครุ่นคิดถึงแรงบันดาลในใจบ้าง :)


Extbition นี้จะโยกย้ายไปจัดกันอีกครั้งนึง ในวันที่4 ก.ค.ณ ชุบชีวา แกลลอรี่ หัวหิน

งานนี้มีทะเลเป็นฉากหลังซะด้วย โรแมนติก จริงๆ

ติดตามข่าวคราวของPaper War ได้ที่นี่เลยยย>> http://tigerclubdesign.blogspot.com/


7/06/2552

-*-*

โลกมักจะสวยงาม ผู้คนดูมีเหตุมีผล และคำพูดอันเลื่อนลอยมักมีความหมาย




6/15/2552

Think


วันนี้ไปเลือกสีที่จะใช้มา มีอยู่ในหัวประมาณเฉดเดียว คือสีขาว ขาวมุก หรือขาวอื่นๆ แล้วก็พวกเกรซโซ สิ่งที่ได้เพิ่มมาคือสีชมพูสุดแสบ อดไม่ได้จริงๆ ลองนั่งเปิดหนังสือดูเสก็ตเกี่ยวกับงานที่ใช้สีสไตล์นี้มา
ชอบความไม่ตั้งใจแต่ตั้งใจ ชอบความบังเอิญแต่ก็ต้องเป็นความบังเอิญที่ถูกเลือกแล้ว
แค่อยากให้ความรู้สึกถึงว่า มันเป็นความรู้สึกที่อยู่กับตัวเองตลอดเวลา เหมือนการบันทึก มีขีดฆ่า และเขียนไหม่
ความรู้สึกปนๆกัน อยู่ในหัว มันยังไม่ชัดจนกว่าจะได้เรียบเรียงออกมา อาจจะบอกเล่าได้บ้างเป็นคำพูด แต่การเพ้นก็ไม่อยากให้ชัดเหมือนในความรู้สึก เหมือนฝันๆ แต่เป็นฝันไม่ดีแต่สีสวย55+ อยากโชว์ธรรมชาติของความผิดพลาด อะไรแบบนั้น
วันนี้ลองนั่งดูงานเฟมินิส เพ้นต่างๆ ไปเจองานนึง เสก็ตเมนที่ลอยปนอยู่กับน้ำที่คลอในคอห่าน เป็นความรู้สึกถึงเพศหญิงดี แต่รู้สึกคาวๆและสกปรก ดูแล้วไม่สบายใจซักเท่าไหร่ ส่วนตัวอยากทำงานแรงๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ ก็คิดว่ามันต้องต่อสู้กับอะไรบ้างไม่รู้ และไม่มีความคิดว่าจะอยู่กับอะไรแบบนี้ไปได้ตลอด
ไม่รู้สิ...
ช่วงนี้เผชิญหลายเรื่อง เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากพักใหญ่ละ ประชดประชันกันด้วยการโชว์เสียเงินทอง เพื่ออะไรวะ55+
มองดูคนรอบข้าง เพื่อนฝูงคนรู้จักก็เจอเรื่องแย่ไม่แพ้กัน และบางทีเรื่องของเค้าอาจแย่กว่า ในเวลาแบบนี้ก็ได้แต่พูดจาตบไหล่ให้กำลังใจต่อกันและกันไป..
บางคราวคนอกหักเลือกท่องเที่ยวและมองหารักไหม่ให้ตัวเอง
บางคนเลือกตัดคนที่ยุ่งยากในชีวิตไป และเลือกทางที่โดดเดี่ยวกว่านั้น
บางคนทำๆๆๆและทำ
ใครๆก็มีเรื่องและวิธีการของตัวเอง
ฉันก็ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สากับอะไรซะเลย
เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนน่ะ วันนี้ประชดใส่กัน ก็เพียงเพราะว่ารักกัน มันเป็นความบริสุทธิ์ใจที่น่าหงุดหงิดพอดู...:/
และเราต่างจะผ่านมันไปตามวิธีของเรา

4/06/2552

Flightless Bird, American Mount

เพลงนี้เพราะจริง เพลงนี้ไพเราะจัง ขนาดจบเสียงเพลงไปแล้ว รู้สึกว่ายังคงบรรเลงอยู่ในหัวเลย ว่าจะนอนเยอะๆซะหน่อยวันนี้ อากาศเย็นจนขี้เกียจข้างนอกฝนตก นกคงบินไม่ได้.............

4/03/2552

foner day

บ่าย อุตุ ในวันที่อากาศไม่เป็นใจ แต่เรากับเลือก จะที่จะออกเดินทางสู้แดดยามบ่ายในกรุงเทพมหานคร การเดินทางของเรา นำโดย foner หนุ่มชาวอเมริกัน วัย31ปี
หรือเรียกเพราะเพราะ ว่า" พี่ฝน" พี่ฝน พาไปเดินทางดู Graffity ในมุมต่างๆ แทบจะทั่วกรุงเทพ พีฝนเก่งเรื่อง ทิศทางในกรุงเทพและพูดไทยเก่งมาก แต่ที่เหนือกว่านั้น คือด่า ภาษาไทยได้อารมณ์มากมาก 55+
อากาศร้อน จนต้องบ่น ในขณะที่คนต่างชาติอย่าง พี่ฝน กลับบอกว่า สบายมาก
แต่พอพาแกตากแดดถ่ายรูปกันนานนาน แกเริ่มจะพูดขึ้นว่า เร็วเร็ว 5+


พี่ฝนมุขเยอะมาก บางครั้งเราก้ต้องพูดภาษาอังกริด กับพี่ฝน แต่แทนที่จะรู้เรื่อง ภาษาปกิดอันอ่อนหัดของเราทำให้ เข้าใจยากกว่าเดิม แล้วก้อจบด้วยมุข ทอคคิงดิช เถอะ
พาไปดูงาน Graffity แล้วก็คอมเม้นให้ฟัง แถมพยายามอธิบายให้ฟัง ถึงงาน Graffity และStreetart พี่ฝนไม่ชอบ Streetart พี่ฝนว่าอย่างนั้น
ไอ้เราก้อเรียน Art และก็รู้สึกกลางกลาง กับ Graffity เลยไม่อยากหาเหตุผล ใดใด เป็นเรื่องส่วนบุคคลกันไป ..
เย็นจนค่ำ เราพาพี่ฝนไปทาน จิ้มจุ่ม แถวสีลม พี่ฝนบอกว่า อร่อยสุดยอด และเเล้ว พี่ฝนก้อเรียกฝนมา ฝนตกกระหน่ำแรงมาก ทั้งที่ปกติไม่ตกเลย เราเลยโทษพี่ฝนกัน พีฝนส่ายหัวบอกว่า ร้อนก็บ่น ฝนตกก็บ่น แล้วก็จบด้วยคำว่า "ผู้หญิง "เรียกเสียงฮากันอีกรอบ.. ก่อนจะวิ่งฝ่าฝน ขึ้นรถ แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน..
นับเป็นวันที่ทรหด และสนุกสนาน ทีเดียว
. see you

3/29/2552

around and me

รอบตัวฉันเงียบ ไม่เป็นเวลาของเสียงใดใด
ฉันจงใจให้เป็นเช่นนั้นแม้แต่เสียงเพลง ฉันก็เกียจคร้านเกินกว่าจะได้ยิน...
ชื่นใจกับความสุขุมอย่างประหลาดของตัวเอง
อีกใจนึง ก็ภาวนา ขอให้ความสุขุมแบบนี้อยู่กับฉันไปนานนาน

3/25/2552

bo day in 9 march

จากการนั่งนั่งยืนยืน อยู่แถว บริเวณหอศิลป สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิต ร่วมสองชั่วโมง
นั่นก็เพราะมีการเสด็จขององหญิง ที่มาในนิทรรศการนี้เช่นกัน ก็ได้เวลาเข้าไปชมงาน ทีสีธของ คณะ จิตกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร
แต่การไปยินดีกับเพื่อน ดูจะเป็นเหตุผลที่ จริงใจกว่าสำหรับการไปนิทรรศการในครั้งนี้ 'โบ'หรือ 'อีโบ'ที่เพื่อนเพื่อนเรียกกันเอาฮาจนติดปากไปในที่สุดนั้น ดูจะเป็น นางเอกสำหรับเพื่อนในวันนี้ สังเกตจากช่อดอกไม้ ที่ลุยบึ่งไปปากคลองตลาด เพื่อซื้อมามอบให้มัน กันมันงอน มาด้วยใจอย่างเดียวไม่ได้นะมันไม่เอา

เอาเถอะ ก็โบเค้าเป็นผู้หญิง ผู้หญิงก็คู่ควรกับดอกไม้ .

โบ เป็นผู้หญิง เก่ง ขยัน และ แข็งแรง คำหลังนี่ดูเหมือนมันจะไม่ชอบ เราเรียน ศิลปะ ที่ วิทยาลัยช่างศิลป ลาดกระบังมาด้วยกัน ก่อนจะต่างคนต่างแยกย้ายกัน เข้ามหาวิทยาลัย ยังมีเพื่อนหลายคนที่เรียนมาด้วยกันและ วันนี้ มีโอกาศ ได้เจอกัน ..
นอกจากงานศิลปะ ความสุขและความยินดี
เหนือสิ่งอื่นใด .. คือความแก่ของเพื่อนๆที่ดูจะเต็มที่เลยนะเพื่อนฝูง ฮ่าฮ่า.^^

3/20/2552

นึก





ถ้าได้ไปทะเล .. ก็คงดี


ลมคงแรง กลางวันแดดคงจ้า

เพราะเป็นเวลาของพระอาทิตย์

ถ้าเป็นกลางคืน ทะเลคงเงียบ มีแต่เสียงลม..

.....แต่ก็ยังเป็นทะเล^

3/18/2552

นกน้อยของฉัน

เธอ ไม่เคยสบตากับฉัน ..
และหาก ตัวอักษรของเธอ ไม่สบใจของฉัน

ฉันก็คงลืมเธอลงไปได้ง่ายง่าย..

เป็นประกาย ณ วินาที ทำให้เราได้พบกัน

ในขณะนั้น หัวใจฉันก็เปี่ยมไปด้วยประกาย

.. บอกเด็กผู้ชายข้างๆเธอให้วางแก้วนมลงก่อนได้ไหม

หากมันจะไม่เป็นการรบกวนนกน้อยตัวนั้น

เพราะมันรบกวนความคิดของฉันที่มีต่อเธอ


ฉันจินตนาการถึงเธอ


"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ" เธอจะยิ้มและพูดกับฉันแบบนั้น

ได้โปรดอย่าไปพบกับเค้าอีกเลยแม้เธอจะได้เคยสัญญาไว้

เพราะฉันไม่พร้อมเลยที่จะร้องไห้

มาอยู่กับฉัน เราจะได้นั่งสบตากัน ท่ามกลางเสียงเพลงที่มีความหมายถึงรักที่ไม่ล่มสลาย เสียที
เอคุนิ ของฉัน ค่ำคืนนี้ ฉันจะฝันถึงเธอ...
.....


เอคุนิ คาโอริ เกิดปี 1964 ที่โตเกียว มีผลงานเขียนได้รับรางวัลมากมาย ผลงานแทบทุกเล่มได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์กับละครทีวี

ผลงาน

-KIRAKIRA เป็นประกาย
-นกน้อยของผม
-rossoร้อนแรง เขียนคู่กับ bluเยือกเย็น โดย ท์ซึจิ ฮิโตนาริ
-หล่น
-พร้อมแล้วที่จะร้องไห้
-ค่ำคืนนี้

with love


งานชุดนี้ พูดถึง ความรักอันเข้ามามีอิทธิพล ในการมองโลกของตัวเอง มันเป็นความสวยงามของความรู้สึกทีดีมากๆ เมื่อ ความรักของพระเจ้า แนวคิด วิถี ทีตั้งอยู่บนพื้นฐานความรัก ที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสรู้จัก ทำให้มุมมองและวิถีชีวิต ของตัวเองเปลี่ยนไป ตรงจุดนี้จึงทำงานที่แสดงความรู้สึกส่วนตัว นำเรื่องราวที่รู้สึกไม่ดี มาแสดงออกอย่างสดใส ให้รู้สึกถึงความรัก ที่เปลี่ยนมุมมองร้ายร้าย ในความรู้สึกของตัวเอง.
.ให้น่าดู และน่ารัก

3/14/2552

art the sis exhitbitpn 13th


art thesis exitbion 13 th เป็นิทรรศการแสดง ศิลปะนิพนธ์ ของรุ่น 13 แห่งภาควิจิตรศิลป คณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นการแสดงงานภาควิชาวิจิตรศิลป ครั้งที่ 13 ด้วยความที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข 13
จึงได้นำความเชื่อเกี่ยวกับโชคร้ายของเลข 13 มาเป็นลูกเล่นโปรโมตนิทรรศการ. และยังใช้วันศุกร์ที่ 13 เป็นวันเปิดแสดงงาน อีกด้วย

ฉันเองได้เข้าเรียนในรุ่น 13 ของภาควิชาวิจิตรศิลป สถาปัตยฯลาดกระบัง แม้ไม่ได้แสดงศิลปะนิพน ในงานนี้ เนื่องด้วยไม่ได้จบการศึกษาพร้อมเพื่อนๆเพราะมีเหตุผลส่วนตัว มีบางสิ่งบางอย่างที่รู้สึกอยากทำ.. เสียงมันดังมาก ประกอบกับ..ไม่พอใจในความหมาย ของงานตัวเอง.. ทุกอย่าง ณ เวลานั้น ฉันรู้สึกว่า เวลาไม่พอเพียง แม้บางทีอาจคิดไปเอง และเมื่อทำสองอย่างพร้อมกัน มันเกิดอารมภ์เบื่อหน่าย วุ่นวาย ฉันคิดว่าฉันไม่พร้อม จึงตัดสินใจหยุดพักไว้ก่อน ..





การได้ไปงานแสดงและมองเห็นเพื่อนๆในชุดสุดหล่อสุดสวย ก็ดูจะ เรียกสีสันความทรงจำให้นึกถึงวันแรก ที่ได้มาเรียนที่นี่ วันได้ทำความรู้จัก และสนิทสนม ไม่ว่าจะรู้สึกยังไงกับ4ปีที่ผ่านมา ดีหรือว่าไม่ ทุกเรื่องได้ผ่านพ้นมาแล้ว และล้วนเป็นความทรงจำหล่อหลอมเป็นประสปการณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเติบโตขึ้นตามวัย วันและเวลา................................ ยินดีกับทุกทุกคนด้วย

3/12/2552

a landfeel

ในวันที่ความสัมพันธ์มันสลับซับซ้อน บางทีเราก็เหมือนเดินอยู่ในเงื่อนไขของชีวิตที่ดูไร้เงื่อนไขน้ำตาจึงเป็นสิ่งที่ไหลง่ายและจางได้ง่ายเหมือนฝุ่น...

เรียน คนบ้าที่ไม่น่าอภิรมย์

วันนี้ ฉันรู้สึกท้อแท้ แต่ไม่ได้ถึงขั้น..สิ้นหวัง เอาเป็นว่า ต๊อแต๊ ละกัน^
สืบเนื่องมาจาก ความเพลิดเพลินในชีวิต ที่เกินจะยับยั้งชั่งใจ ของตัวเอง
มันได้นำพา กลิ่นของความชิบหาย เข้ามาหนึ่งระลอก

ตาย ตาย ตาย แล้วน้องขวัญ!! เสียงแหบเล็กแบบผู้หญิง ในร่างกายกำยำของผู้ชาย ภายใต้อาภรณ์ ญิง๋ๆ

"เธอ " กับการตายซ้ำสาม ทำเอาชั้น หน้าชายับ หูอื้อ และตะลึงงัน

กับความที่พยายามจะเกิดไหม่จากการตาย 3ครั้ง ที่ เธอมอบให้ และแล้วก็พบว่า ฉันทำผิดพลาด ฉันทำผิดพลาด กูทำผิดพลาด

ความต๊อแต๊ที่ท้อแท้ของฉันมันเกิดขึ้นเพราะว่า ฉันได้ทำให้เธอสูญเสีย ความเชื่อถืออันเชื่อมั่น ฉันทลายมันลงไปต่อหน้า ด้วยความเผอเรอที่แสนไร้สาระ ของฉันเอง และ ณ บัดnow ฉันไม่รู้คืนสู่การกู้กลับอย่างไร...ก็ได้เพียงแต่หวังว่าจะมีโอกาศวัดใจกันอีกครั้ง...
บางที อาจไม่มี... ช่างแม่งละ

จะเป็นยังไงถ้าความผิดพลาดไม่มีโอกาศแม้แต่ครั้งเดียว และกับการงานเพื่อชีวิตเลี้ยงปากท้อง และความก้าวหน้า นั้นแข่งขันกันด้วยเครดิต..


ฉันนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย.. จิตใจของฉันอาจต้องการโลกกว้างๆ ที่อาจมากกว่าปริมาณเงินทอง ฉันก็แค่ต้องการเสบียงเพื่อรื่นรมย์กับอะไรอะไรได้ง่ายขึ้น
ฉันหวังกับตัวเองว่า ฉันน่าจะกล้าหาญมากกว่านี้ แล้วก็เกิดคำถามต่อ แล้วกล้าหาญเรื่องอะไรล่ะ กูก็ไม่รู้สิ ..ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ขี้ขลาด อะไร ฉันจะธรรมดา หรือไม่ธรรมดาแต่ก็เป็นธรรมชาติ ธรรมชาติของฉัน ก็คือ ก็กูเป็นงี้ และใน ขณะที่ยึดติด ตัวกู ของกู ของฉันอยู่นั้น ก็ยังมีสังคม มีชีวิตสัมพันธ์ มีความรู้สึกแลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ รับอิทธิพล แลกเปลี่ยนอิทธิพล แต่กูก็เป็นของกูเหมือนเดิม บางทีมันอาจอยู่ทีว่าเรารู้สึกกับตัวเองยังไงมากกว่า

ฉันรู้จักภายในของตัวเอง หรืออาจเป็นบางทีเท่านั้น ถึงอธิบายไม่ได้ แต่ฉันก็รับรู้ โลกของฉัน คือโลกของคนบ้าบ้า ที่บางทีก็น่ารื่นรมย์ และบางทีก็ไม่น่าใส่ใจเอาเสียเลย.. เพื่อนของฉันบอกว่า ฉันเป็นคนเกิน ออกจะเกินเกิน.......เอาเถอะ ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป....






ด้วยความต๊อแต๊เป็นอย่างยิ่ง

ฉัน (คนบ้าดีดีนั่นแหละ)